11 ตุลาคม, 2557

อ่านหนังสือยังไงให้ทันสอบ?

ช่วงนี้ก็ใกล้สอบล่ะนะ น้องๆ หลายคนคงจะประสบปัญหาคลาสสิก "อ่านหนังสือไม่ทัน" ไม่ก็ "อ่านไม่เห็นจะรู้เรื่องแล้ว" หรืออารมณ์ขึ้นหน่อยก็ "ไม่อ่านมันแล้ว(โว้ย)"... แหม่ คลาสสิกมาก บ่นกันมาทุกรุ่นแล้วก็ต้องทนอ่านกันต่อไปทุกรุ่นละนะ

วันนี้เลยจะมาสรุปวิธีการอ่านหนังสือของตัวเองให้ฟังหน่อยว่าตอนยังใช้ชีวิตแบบนักศึกษาอยู่น่ะ เราทำอะไรบ้าง

ย้ำว่าวิธีของเรานะ อาจจะใช้ไม่ได้ผลกับหลายๆ คน ... น้องที่ถามว่า "พี่อ่านหนังสือยังไงให้ทันสอบ" ก็คิดก่อนนะว่าวิธีนี้น่ะมันใช้กับเราเองได้มั้ย


คิดว่า"เราทำได้"

ไม่ใช่ให้หลอกตัวเองนะ 555 น้องๆ ส่วนใหญ่มันจะคิดว่า(หนังสือ)เยอะขนาดนี้ เราทำไม่ได้หรอก ไม่เก่งพอ ถ้าคิดอย่างนี้ยังไงก็ทำได้ไม่ดี ไม่ว่าจะอ่านทัน หรือไม่ทัน ก็ต้องคิดไว้ก่อนว่าเราทำได้สิ คือให้คิด บวก (+) ไว้ก่อนอย่างดูถูกตัวเอง

รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง

ต้องรู้ตัวเองก่อนว่าเรามีสกิลในการทำความเข้าใจเนื้อหาขนาดไหน ถ้าน้องเรียนคณะด้านวิทยาศาสตร์ ผู้หญิงก็อาจจะเห็นว่าผู้ชายส่วนใหญ่มันไม่อ่านหนังสือกันเลยแต่แค่3วันก่อนสอบมันก็เข้าใจกันแล้ว แล้วทำไมฉันอ่านแล้วอ่านอีกมาเดือนนึกก็ยังทำไม่ได้

น้องต้องหาให้เจอว่าเราอ่านแบบไหนมันจำและเร็วที่สุด เช่นของเราเป็น "อ่าน3วันก่อนสอบ" เพราะสมาธิของเราไม่ค่อยมาก เป็นพวกเบื่อง่าย ถ้าอ่านนานกว่านั้นจะเบื่อแล้วเลิกอ่านไป สู้รวมสมาธิแล้วอ่านทีเดียวเลยดีกว่า ... แต่บางคนก็เป็นสายอดทน+สะสม พวกนี้จะต้องอ่านวันละนิดนิด แต่อ่านบ่อยๆ ทุกวัน เพราะสไตล์ของกลุุ่มนี้มันจะจำอะไรเยอะๆ ในคราวเดียวไม่ได้ ตัวเองเป็นสายไหนก็เลือกเอาละกัน

อาจารย์สอนไม่รู้เรื่อง ฉันเลยอ่านไม่รู้เรื่อง (งั้นเหรอ?)

จากที่เจอมา มีอาจารย์ไม่เยอะหรอกที่จะสอนรู้เรื่อง โดยเฉพาะยุคนี้ที่การเรียนการสอนมีอุปกรณ์ช่วยมากมายเช่น สไลด์ ... ในความเห็นเราเนี่ย การสอนด้วยสไดล์เป็นอะไรที่แย่มากเป็นอันดับต้นๆ ทำให้คนเรียนไม่รู้อะไรเลย

แต่ก็อย่างว่านะ คุณเป็น "นักศึกษา" แล้วนะ ไม่ใช่นักเรียน ไม่มีคนมาป้อนแล้ว ต้องหาความรู้ด้วยตัวเอง ในเมื่ออาจารย์ (บางคน) ช่วยให้เราเข้าใจไม่ได้เลย ก็ต้องหาแหล่งความรู้ที่สอง นั่นคือ ตัวเอง เพื่อนที่มันเก่งๆ ไม่ก็จบที่ Google

มันเลยเป็นที่มาของวิธีการพลักของเรา! เรียนในห้องไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องเรียนในห้องสิ ห้องเรียนเอาไว้นอนพักผ่อน (แต่กลับหอพักแล้วต้องอ่านเองให้ได้ด้วยนะ)

นอน...

ปกติยิ่งใกล้สอบ น้องๆ จะนิยมการโต้รุ่งกันเพราะอ่านไม่ทัน แต่สำหรับเราแล้วยิ่งใกล้สอบเท่าไหร่ จะเพิ่มชั่วโมงการนอนของตัวเองขึ้นอีก

ถ้าปกตินอนวันละ 7 ชั่วโมง อาทิตย์ก่อนสอนอาจจะซัดไปสัก 8 ชั่วโมงเลยล่ะ การพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญ อยู่ต่อดึกๆ ไม่ได้แปลว่าคุณจะเข้าใจหรืออ่านทันขึ้นนะ รอชาร์ตพลังแล้วตื่นกลับมาอ่านใหม่ดีกว่า

เปิดติว

อ่านให้ตบสัก 1-2 รอบ ไม่ต้องจำได้หมดก็ได้ แล้วป่าวประกาศเลยว่า "ฉันจะติววิชานี้นะ" เพื่อนน้องจะแห่กันมาจากทั่วทุกทิศ เป็นการกดดันให้เราต้องอ่านเนื้อหาจนขึ้นใจเพราะสัญญาไปแล้วว่าจะติว แถมตอนติวคนอื่นนี่แหละ ทำให้จำอะไรดีมากเลย และเพื่อนมักจะมีคำถามที่คาดไม่ถึงมาเสมอทำให้เราจะรู้มากขึ้นเรื่อย ดีไม่ดี ติวไปติวมาเพื่อนกลับมาเป็นคนสอนเราแทนซะงั้น

สรุป

วิธีการอ่านหนังสือของเราไม่ใช่วิธีที่ดีเท่าไหร่หรอก แต่มันเกิดจากสถานการณ์บังคับ (เริ่มตอนปี2ที่อาจารย์บางคนสอนไม่รู้เลย ปี1นี่ยังเข้าใจได้อยู่นะเลยยังเรียนในห้องอยู่) ในเมื่อเขาสอนสไตล์เขาแล้วเราไม่รับ ก็เปล่าประโยชน์ที่จะเรียนในห้อง ใช้วิธีอ่านเองดีกว่า งั้นเวลาในห้องทำไรล่ะ ก็ใช้พักผ่อนไง แต่พักผ่อนจริงๆ นะไม่ใช่นั่งเล่นมือถือ

ก็พยายามหาวิธีอ่านหนังสือของตัวเองให้เจอละกัน ยิ่งเจอเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น

สุดท้ายของฝากไว้ ... คะแนนกับเกรดไม่ใช่ทุกอย่าง มันจะมีค่าก็แค่ตอนเรียนกับตอนหางานครั้งแรกเท่านั้นแหละ เรียนจบไปคุณอาจจะทำเงินได้มากกว่าเพื่อนที่สอบได้คะแนนเต็มตลอดก็ได้นะ ;)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น