08 กุมภาพันธ์, 2558

[Review] Fury - วันปฐพีเดือด (★★☆☆)

Fury - วันปฐพีเดือด

ให้คะแนน (★★)

รีวิวนี้เป็นความเห็นส่วนตัว คะแนนที่ให้ทั้งหมดมาจากความประทับใจของตัวเองล้วนๆ ไม่สนกระแส ไม่สนบทภาพยนต์ ไม่สนนักแสดง-ผู้กำกับทั้งสิ้น

ตอนนี้มีกระแส The Imitation Game กำลังมาแรง เรื่องนั้นก็เกี่ยวกับเหตุการณ์ในสงครามโลกครั้งที่สองเหมือนกันแต่เรื่องนี้ดูแล้วเขียนค้างไว้นานแล้ว (ดองนั่นเอง)

ฟิวรี่เป็นชื่อของรถถังรุ่นเชอร์แมน (รถถังมาตราฐานของฝ่ายอเมริกา) คันที่พระเอกของเรื่องขับ อ่ะ..พูดถึงรถถังแน่นอนว่าเรื่องนี้มันต้องเกี่ยวกับสงครามแน่ๆ ช่วงเวลาของเรื่องฟิวรี่อยู่ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง WWII ซึ่งตอนนั้นฝ่ายสัมพันธมิตรเริ่มโต้กลับและบุกเข้าประเทศเยอรมันนีแล้ว

เรื่องนี้มีตัวเอกเด่นๆ 2 คนคือ "วอร์แดดดี๊" (แสดงโดยแบรด พิตต์) ในตำแหน่ง ผู้บัญชาการรถถัง กับ "นอร์แมน" ตำแหน่งผู้ช่วยคนขับและพลปืนกล เรื่องเปิดมาโดยที่เล่าให้เห็นว่าผลปืนกลประจำรถของพวกพระเอกโดนระเบิดเสียชีวิตไป ทำให้กองทัพส่งพลปืนกลคนใหม่มาให้ประจำการแทน แต่พลปืนกลคนใหม่ก็ดันเป็น นอร์แมน เด็กหนุ่มที่ยังไม่เคยลั่นไปปืนฆ่าคนเลยประมาณว่าเป็นเด็กหนุ่มที่ไม่น่าจะมาเป็นทหารอะไรประมาณนั้น เลยมีดราม่ากันนิดหน่อยระหว่างผลประจำรถถังเดิมกับนอร์แมนที่มองสมาชิกใหม่เป็นแค่ไก่อ่อนที่ทำอะไรไม่ได้

ในเรื่องพวกพระเอกได้รับคำสั่งให้ไปสกัดกองทหารเยอรมันนีที่จุดยุทธศาสตร์หนึ่ง ตอนแรกก็ไปกัน 5 คัน แต่เดินทางไปก็ไปเจอกับรถถัง Tiger ของฝ่ายเยอรมันเข้า ทำให้มีแต่คันของพวกพระเอกเท่านั้นที่หลุดไปถึงจุดยุทธศาสตร์เพื่อทำภารกิจสกัลกองทัพเยอรมันที่กำลังจะเดินทางผ่านไปด้วยรถังแค่คันเดียว

โดยส่วนตัว คาดหวังว่าจะได้เห็นฉาก action รบกันโดยใช้ยุทธการรถถัง/ยานเกราะ แต่ก็มีฉากแบบนี้ไม่เยอะ หลักๆ มี 3 ฉากเท่านั้นคือฉากใช้ขบวนรถถัง+ทหารราบเข้าตีที่มั่นศัตรู (กลยุทธ์มาตราฐานของฝ่ายอเมริกา) ฉากรถถังเชอร์แมน vs รถถังไทเกอร์ แบบ 4ต่อ1 และฉากสุดท้ายที่ไปตั้งหลักต้านทัพเยอรมัน ... นอกนั้นจะเป็นฉากดราม่าประเด็นความโหดร้ายของสงครามที่เล่าผ่านนอร์แมนที่เป็นเหมือนทหารใหม่เพิ่งมาจับปืนฆ่าคน ซึ่งขอตัดคะแนนตรงนี้เพราะอยากดูฉากบู๊โดยใช้รถถังมากกว่าเพราะเคยดูหนังสงครามโลกที่เน้นฉากบู๊มากกว่าดราม่าแบบ U-571 แล้วชอบมาก แต่เรื่องนั้นเป็นทัพเรือ/เรือดำน้ำ

ดังนั้นถ้าใครชอบหนังดราม่า เน้นอารมณ์อาจจะชอบเรื่องนี้มากกว่าเราก็ได้ แต่ถ้าชอบแบบเราก็มีให้ดูแค่3ฉากเท่านั้นแหละ แต่3ฉากนั้นสนุกนะ อลังการโดยเฉพาะคนที่รู้ว่าวิธีการต่อสู้ด้วยรถถังเป็นยังไงจะดูแล้วอินฯ ดี (เราดู Girl und Panzer มาแล้วเลยรู้กลยุทธ์ส่วนใหญ่)

สรุปก็ให้ 2/4 นะ เพราะฉากสู้กันน้อยไป ดราม่าเยอะไปนิด หนังสงครามโลกครั้งที่สองในดวงใจก็ยังเป็น U-571 อยู่ดี

เล่าเรื่องรถถังกันหน่อยละกัน

สำหรับคนที่เคยอ่านเรื่อง/ข้อมูลการรบสมัยสงครามโลกอ่านจะรู้พวกนี้อยู่แล้ว แต่ถ้าใครไม่เคยจะให้ข้อมูลพวกนี้ไว้หน่อยละกัน

พลประจำรถถังฟิวรี่ เรียงจากซ้าย นอร์แมน(พลปืนกล) กอร์โด(คนขับ) วอร์แดดดี๊(ผู้บัญชาการรถถัง) เกรดี๊(พลบรรจุกระสุน) ไบเบิล(พลปืน)
สงครามโลกครั้งที่สองเป็นสงครามที่ทำให้เทคโนโลยีทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด (เทคโนโลยีหลายๆ อย่างเช่นคอมพิวเตอร์ก็เกิดเพราะ WWII) โดยเทคโนโลยีของฝั่งทัพบกอเมริกาที่เห็นได้มากที่สุดคือรถถังเชอร์แมน ที่เป็นรุ่นระดับ เบส-เซลเลอร์ ผลิตออกมาเป็นหมื่นๆ คันแต่มันออกแบบมาให้ใช้สำหรับสนับสนุนทหารราบเป็นหลัก เกราะและปืนเลยไม่หนาและใหญ่มาก ประมาณว่าถ้ายกกันไปเป็นก๊วนมันจะเก่งนะ แต่ถ้าให้ไปสู้ตัวต่อตัวกับรถถังฝ่ายเยอรมันที่ออกแบบมาดวลกับรถถังด้วยกันโดยเฉพาะก็ต้องใช้ฝีมือมากหน่อย

โดยพลประจำรถถังหลักๆ จะมี 5 คนคือ
1. ผู้บัญชาการรถถัง - เป็นคนสั่งการทุกอย่างเหมือนกัปตันเรือยศจะใหญ่ที่สุดในทุกคน รถถังทั้งคันจะอยู่จะไปก็ขึ้นกับคนนี้แหละ และก็เป็นคนที่เสี่ยงชีวิตที่สุดเพราะสมัยสงครามโลกไม่มีกล้องมองนอกรถถังที่ดีมาก ทำให้ผู้บัญชาการต้องโผล่หัวออกไปนอกรถถังทำให้มีโอกาสโดยสอยได้ง่ายๆ

2. คนขับ - ตามชื่อเลย คือเป็นคนขับรถถังส่วนใหญ่จะต้องฟังผู้บัญชาการรถถังว่าให้ขับไปทางไหนมากกว่า หน้าที่หลักๆ เลยไม่ใช่หาเส้นทางแต่เป็นคอยดูตามทางว่ามีศัตรูหรือพวกกับระเบิดอยู่รึเปล่า

3. พลปืน - ทำหน้าที่เล็งเป้าหมายและยิงมัน~! สำหรับรถถังเชอร์แมนพลปืนจะมีปืนสองกระบอกคือปืนหลักขนาด 75มม. กับปืนกล คำสั่งยิงจะมาจากผู้บัญชาการ ไม่ใช่อยู่ๆ อยากยิงก็ยิงได้

4.พลบรรจุกระสุน - สมัยสงครามโลกยังไม่มีระบบบรรจุกระสุนอัตโนมัติ พอยิงปืนไปครั้งนึงก็ต้องใช้แรงงานคนนี่แหละ ยกกระสุนขึ้นมาบรรจุเอง พลบรรจุเลยจะเป็นคนที่แข็งแรงที่สุดในกลุ่ม

5.ผู้ช่ายคนขับและพลปืนกล - เป็นคนที่นั่งข้างๆ คนขับ และคอยใช้ปืนกลหน้ารถยิงข้าศึก

ส่วนใหญ่เชอร์แมนจะไปกันเป็นขบวน (เพราะถ้ามันอยู่คันเดียวมันจะทำไรไม่ค่อยได้) ไม่ก็ไปกับทหารราบ และทำการโจมตีแบบแท๊กทีม ช่วยๆ กัน

เชอร์แมน vs ไทเกอร์

อย่างที่บอกไปว่าเชอร์แมนเป็นรถถังมาตราฐานของฝ่ายอเมริกา ออกแบบมาใช้รบพร้อมทหารราบเป็นหลัก ดันนั้นถ้าเอามันไปสู้กับไทเกอร์ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชารถถังสมัยสงครามโลก อาจจะต้องใช้เชอร์แมนถึง 5 คันรุมเพื่อเอาชนะเลยทีเดียว


ในหนัง ฝ่ายพระเอกโดนไทเกอร์คันนึงซุ่มโจมตีระหว่างทาง ไทเกอร์ยิงเปิดฉากมาทะลุเชอร์แมนหนึ่งคันไปเลยแต่ฝ่ายพระเอกหันไปยิงมันตั้งนานกว่าจะยิงเข้า


ดูจากรูปเปรียบเทียบ เชอร์แมนกับไทเกอร์ รูปร่างก็แพ้ เกราะหนาก็แพ้ ขนาดกระสุนนี่ก็คนละระดับกันเลย ข้อดีของเชอร์แมนอยู่ที่มันผลิตง่ายกว่าและเบากว่าเท่านึงทำให้มันวิ่งเร็วกว่าไทเกอร์เยอะมาก สามารถอ้อมหลังไปยิงเข้าที่เกราะหลังซึ่งบางและเป็นจุดอ่อนของไทเกอร์ได้ ต้องอ้อมไปเพราะยิงข้างหน้าจะๆ ยังไงก็ไม่เข้า (แต่ไทเกอร์ยิงนัดเดียวนี่เชอร์แมนกระเด็นเลยนะ)




- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - ข้างล่างมี SPOIL ล่ะ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -



เล่าเรื่องแบบละเอียดเท่าที่จำได้ - เป็นฉากมาด้วยรถถังคันของพระเอก (ที่ชื่อฟิวรี่) จอดเสียอยู่และกำลังโดนฝ่ายเยอรมันยิงถล่ม ในรถ พลประจำรถมีปากเสียกันนิดหน่อยเพราะเกิดเหตุทำให้ลูกทีมชื่อเรดซึ่งเป็นพลปืนกลเสียชีวิตไป แต่ทั้งหมดก็หนีกลับมาถึงฐานได้

รถถังฝ่ายพระเอกที่เสียลูกทีมไปหนึ่งคนเลยได้รับพลประจำรถมาใหม่แต่ดันเป็นเด็กหนุ่ม (นอร์แมน) ที่เพิ่งเข้าร่วมกองทัพไม่นานแถมไม่เคยฆ่าคนด้วย พูดง่ายๆ คือยังเป็นคนธรรมดาอ่อนต่อโลกของสงครามอยู่ สมาชิกในทีมก็ยังไม่ค่อยยอมรับคนใหม่สักเท่าไหร่

พวกพระเอก ซึ่งนำโดย วอร์แดดดี๊ พร้อมรถถังในทีมทั้งหมด 4 คันได้รับคำสั่งให้ไปช่วยกองทหารและทำลายปืนของฝ่ายเยอรมันที่แนวป่า ฉากนี้เราจะได้เห็นยุทธวิธีการรบแบบรถถัง+ทหารราบของฝ่ายอเมริกา คือใช้รถถังทั้งหมดขับนำ และทหารเดินตามใช้รถถังเป็นเกราะ ฝ่ายโน้นก็จะยิงปืนต่อสู้รถถังสวนมาซึ่งฝ่ายพระเอกก็ต้องคอยมองว่ากระสุนออกมาจากตรงไหนและยิงสวนเข้าไปตรงนั้น (ปืนต่อสู้รถถังมักจะพรางเอาไว้ มองเห็นไม่ง่าย ต้องรอดูกระกายไฟเวลายิง) แล้วหลังจากรถถังเคลียร์ปืนและยิงถล่มฝ่ายตรงข้ามให้แล้ว ก็จะให้ทหารราบบุกต่อ

หลังจากถล่มที่มั่นเยอรมันได้แล้ว ฝ่ายพระเอกก็ขับรถถังและพากองกำลังที่เหลือเข้าเมือง ในระหว่างนั้นก็จะโดนฝ่ายเยอรมันที่ซุ่มอยู่โจมตีไปเรื่อยๆ ก็ต้องเคลียร์เมืองกันก่อน ถึงจะใช้เป็นที่พักได้

ต่อมาวอร์แดดดี๊ได้รับคำสั่งให้ไปสกัดทัพเยอรมันที่กำลังจะเดินทางไปโจมตีค่ายฝ่ายสัมพันธมิตร พวกพระเอกก็รีบขับรถถังออกไป 4 คัน แต่ระหว่างทาง รถถังคันสุดท้ายของขบวนก็ถูกยิงใส่จนป้อมปืนกระเด็นออก พวกพระเอกขับถอยไปตั้งหลักก่อนจะเห็นว่่ามันคือรถถังไทเกอร์ของเยอรมันที่ซุ่มอยู่ พวกพระเอกที่เห็นกัน 3 คันก็ขับเข้าสู้กับไทเกอร์ แต่ไทเกอร์ชับเข้ามาอย่างชิวมากเพราะฝ่ายพระเอกยิงไปกี่นัด (ยิงโดนด้วยนะ) แต่ก็ไม่เข้า ไม่เหมือนไทเกอร์ที่ค่อยๆ เล็งแล้วเก็บรถถังฝ่ายพระเอกไปเรื่อยๆ ทีละคันจนเหลือคันพระเอกคือฟิวรี่คันเดียว พระเอกใช้ขับอ้อมไปด้านหลังแล้วยิงใส่เกราะอ่อนข้างหลังของไทเกอร์เข้าไปสองนัดกว่าจะทำลายไทเกอร์ได้ สรุปว่าตอนนี้เหลือแต่คันพระเอกต้องไปสกัดทัพเยอรมันคันเดียวแล้ว

พวกพระเอกก็ขับต่อไปยังจุดหมายแต่ก็ไปสะดุดกับระเบิดเข้าทำให้สายพานข้างขวาขาด รถถังไปไหนไม่ได้ ต้องใช้เวลาซ่อมนาน ตอนที่กำลังจะซ่อมอยู่ นอร์แมนที่ออกไปลาดตระเวนก็วิ่งกลับมาบอกว่าพวกเยอรมันมาแล้วนะ หลายร้อยคนเหมือนกัน วอร์แดดดี๊เลยให้แกล้งทำเป็นรถถังไม่มีคนจอดเสียอยู่ พวกเยอรมันเข้ามาใกล้ก็เข้ามาตรวจ แล้วฝ่ายพระเอกก็ยิงสวนเลย เป็นการเอารถถังคันเดียวสู้กับทหารราบทั้งกอง แม้ตอนแรกรถถังจะได้เปรียบแต่สู้ไปเรื่อยๆ กระสุนก็หมดได้นะ ต้องโผล่หัวออกไปยิงเองบ้างทำให้สมาชิกในทีมค่อยๆ ตายไปจนเหลือแค่วอร์แดดดี๊กับนอร์แมนสองคน

วอร์แดดดี๊โดนสไนเปอร์่ฝ่ายศัตรูยิงไปแล้วก็บอกให้นอร์แมนหนีไปหลบใต้รถถัง พวกเยอรมันเข้ามาแล้วโดนระเบิดเข้ามาในรถถัง นอร์แมนลองไปซ่อมใต้รถถังฝ่ายช่องข้างล่าง จนตอนเช้า นอร์แมนได้ยินเสียงคนข้างนอก ปรากฏว่าเป็นฝ่ายอเมริกาที่ตามมาถึงแล้วก็พานอร์แมนกลับไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น